คงไม่มีธุรกิจไหนเหมือนกับวงการบันเทิงที่ชีวิตเต็มไปด้วย Spotlight ซึ่งบางทีก็อาจเป็นดาบสองคม ชีวิตในวงการบันเทิงล้วนเต็มไปด้วยคนที่มีเสน่ห์, มีกลุ่มแฟนคลับ, ให้ความสำคัญกับชื่อเสียง, การแข่งขันที่ตึงเครียด, ข่าวฉาว และต้องประพฤติตัวให้ดีตลอดเวลา
วงการบันเทิงเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่มีความยากลำบาก หลายครั้งซีรีส์เกาหลีได้ตีแผ่มุมมองนี้ให้ผู้ชมได้เห็น นี่คือซีรีส์ 10 เรื่องที่ตัวเอกในเรื่องรับบทเป็นนักแสดง
“Love to Hate You”
ซุปตาร์ตัวพ่ออย่างนัมคังโฮ (รับบทโดยยูแทโอ) เป็นพระเอกแห่งวงการแฟนตาซี-โรแมนติก แต่ในชีวิตจริงกลับตรงกันข้าม คังโฮหวาดระแวงผู้หญิงตั้งแต่เขาถูกแฟนเก่าหักหลังสมัยเรียนการแสดง ดังนั้นเวลาจะถ่ายฉากโรแมนติกเขาจึงต้องขอตัวมาสงบสติอารมณ์ก่อน แต่ทุกสิ่งก็เปลี่ยนไปเมื่อเขาได้พบกับทนายที่เกลียดผู้ชายเลว ๆ อย่างยอมีรัน (รับบทโดยคิมอกบิน) มีรันที่เจนในวงการการเดทแต่สุดท้ายเธอก็สลัดผู้ชายทิ้งทุกคน แต่แล้วมีรันก็ต้องเซ็นสัญญาในการทำงานกับคังโฮในการใช้กฎหมายจัดการคนที่ก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของเขาเป็นจุดกำเนิดความสัมพันธ์ของทั้งคู่ ทั้งสองต่างเป็นการมาเจอกันที่แตกต่าง ทั้งคู่ถูกดึงดูดเข้าหากันราวกับแม่เหล็กรวมถึงเคมีที่ร้อนแรง แต่พวกเขาจะทนต่อข่าวฉาวมากมายที่อยู่รอบตัวได้หรือไม่?
“Love to Hate You” เป็นซีรีส์โรแมนติก-คอมเมดี้เนื้อหาเบาสมอง บทนางเอกที่ไม่ชอบขอโทษใคร ตัดสินใจเด็ดเดี่ยว มีความคิดเป็นของตัวเองซึ่งคิมอกบินแสดงออกมาได้อย่างดีแถมยังขโมยซีนในหลาน ๆ ครั้ง และยูแทโอก็แสนจะเพอร์เฟ็กต์กับบทแฟนหนุ่มซุปเปอร์สตาร์ที่เอาแต่ใจแต่ก็คอยให้กำลังใจแฟนสาวแถมยังมีเสน่ห์
“Record of Youth”
ซาฮเยจุน (รับบทโดยพัคโบกอม) นายแบบและนักแสดงที่ต้องต่อสู้ดิ้นรนในชีวิตการทำงานเพราะเขามีความฝันอยากจะประสบความสำเร็จจากภูมิหลังชีวิตที่ยากจน แต่ถึงแม้ฮเยจุนจะทำงานหนักแค่ไหนแต่เขาก็ตระหนักได้ว่าเขาไม่มีเส้นสายจากการเป็นลูกหลานคนตระกูลดังและไม่มีคอนเนคชั่นเพื่อไต่เต้า แต่ถึงอย่างนั้นฮเยจุนก็ยังขยันทำงานอย่างไม่ยอมแพ้ เขาทั้งทำงาน part-time ไปด้วยและไปออดิชั่นงานต่าง ๆ ความเชื่อที่จะประสบความสำเร็จในสักวันก็ไม่เคยหายไป ฮเยจุนมีเพื่อนสนิทที่เป็นนักแสดงเหมือนกันนั่นคือวอนเฮฮโย (รับบทโดยพยอนอูซอก) เฮฮโยมีความทะเยอทะยานเช่นเดียวกับฮเยจุน แต่กลับหลงกลแม่ที่บอกว่าจะทำให้เฮฮโยมีงานเยอะกว่าฮเยจุน อีกทั้งฮเยจุนและเฮฮโยต่างชอบผู้หญิงคนเดียวกันนั่นคือช่างแต่งหน้าอันจองฮา (รับบทโดยพัคโซดัม)
“Record of Youth” บอกเล่าความจริงแง่ลบของวงการบันเทิง ฮเยจุนที่อยู่ท่ามกลางการแข่งขัน, ความขัดแย้ง, ข่าวลือที่ไม่มีมูลความจริงเลย แต่เขาก็ยังคงมองโลกในแง่บวกและขยันทำงาน พัคโบกอมแสดงบทบาทนี้ออกมาได้สมจริง นอกจากนี้เพลงประกอบซีรีส์เรื่องนี้ก็น่าติดตามไม่แพ้กัน
“Touch Your Heart”
ดาราสาวชื่อดังที่แสนร่าเริงแต่แสนซื่ออย่างยุนซอ (รับบทโดยยูอินนา) มาทำงานที่สำนักงานกฎหมายเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับภาพยนตร์เรื่องต่อไปของเธอ เธอทำหน้าที่เป็นเลขาของควอนจองรก (รับบทโดยอีดงอุก) ทนายความที่บ้างาน จองรกไม่ยอมรับที่อึนซอมาเป็นเลขาให้เพราะเขามองว่าเธอไม่มีความสามารถ แต่ยุนซอเป็นคนจิตใจดีและซื่อสัตย์ถึงจะทำงานไม่ได้เรื่อง แต่พอพวกเขารักกันกลับต้องเจออุปสรรคที่ต้องข้ามผ่านไป
“Touch Your Heart” เป็นเรื่องราวความรักที่ดีและเรียบง่าย เน้นให้เห็นถึงความไม่แน่นอนของชื่อเสียงและมุมมองของสังคมในการตัดสินผู้อื่น นอกจากนี้เคมีของอีดงอุกและยูอินนาก็เข้ากันได้ดี
“Sh**ting Stars”
โอฮันบยอล (รับบทโดยอีซองคยอง) หัวหน้าฝ่าย PR ที่ทำงานเก่งที่สุดในบริษัทบันเทิงแห่งหนึ่ง และคนดังในสังกัดที่ขยันมีข่าวให้เธอต้องปวดหัวกับการทำงานคือดาราหนุ่มอย่างกงแทซอง (รับบทโดยคิมยองแด) ฮันบยอลจึงหาทางเล่นตุกติกกับตาราฃงงานของแทซอง แถมแทซองยังเจอกลุ่มแอนตี้แฟนคอยปั่นป่วนให้ตัวเขาและต้นสังกัดต้องคอยแก้ข่าว สุดท้ายฮันบยอลและแทซองก็ยอมรับในความรู้สึกของกันและกัน แต่พวกเขาจะเก็บความสัมพันธ์นี้ไว้เป็นความลับได้หรือไม่?
“Sh**ting Stars” บอกเล่าประสบการณ์การทำงานของบริษัทต้นสังกัดของเหล่าคนดังทั้งหลายว่าทำงานกันอย่างไร มีทั้งสงครามของพวกดาราด้วยกันเอง, พาดหัวข่าวปลอม และเรื่องอื้อฉาวที่เกิดขึ้นเป็นปกติ อีซองคยองยังแสดงความตลกออกมาด้วยในบทนี้ และคิมยองแดผู้ชมก็ยกนิ้วให้กับทักษะการแสดงของเขา
“Beauty Inside”
ฮันเซกเย (รับบทโดยซอฮยอนจิน) เป็นดาราชื่อดัง แต่เธอกลับสร้างปัญหาในการทำงานเพราะจู่ ๆ ก็หายตัวไปอย่างลึกลับจนเกิดข่าวลือไม่ดีเกี่ยวกับเธอ แต่การที่เซกเยหายไปมีเหตุผลซ่อนอยู่คือเกิดเรื่องแปลกกับเธอ ทุก ๆ 1 เดือนรูปร่างหน้าตาเธอจะเปลี่ยนไป ซอโดแจ (รับบทโดยอีมินกิ) กรรมการบริหารของบริษัทสายการบินที่เก่งมากแต่บางครั้งก็หยาบคายแต่มีความปกติคือไม่สามารถจำคนได้ แม้ทั้งคู่จะเริ่มต้นไม่ดีนักแต่เรื่องราวความรักอันอ่อนโยนของพวกเขาจะค่อย ๆ เปิดเผยออกมา
ซีรีส์โรแมนติก-คอมเมดี้เรื่องนี้เน้นเรื่องการยอมรับตนเอง นักแสดงนำทั้งสองยังสามารถแสดงเป็นตัวละครหลายบุคลิกได้ดีอีกด้วย
“My Love From the Star”
ชอนซงอี (รับบทโดยจอนจีฮยอน) เป็นนักแสดงตั้งแต่เด็ก แต่เธอมักจะชอบเหวี่ยงเพราะนิสัยที่ถูกแม่เลี้ยงดูแบบตามใจและให้แต่เงิน ทำให้ซงอีเป็นเด็กมีปัญหา แต่ชีวิตของเธอก็เปลี่ยนไปเมื่อได้พบกับผู้ชายคนหนึ่งที่มาจากต่างดาว เขาคือโทมินจุน (รับบทโดยคิมซูฮยอน) โทมินจุนอายุ 400 ปีแล้วแต่ยังอาศัยอยู่บนโลกใบนี้ โทมินจุนเป็นอาจารย์สอนที่มหาลัยที่ซงอีเรียนอยู่พอดี แถมยังเป็นเพื่อนบ้านกับซงอีอีก ทั้งคู่หนีกันไม่พ้นจนเกิดความรู้สึกดี ๆ ให้กัน
ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนแต่ “My Love From the Star” ยังคงเป็นหนึ่งในซีรีส์เรื่องโปรดของแฟน ๆ เรื่องราวความรักอันแสนหวานกับการแสดงที่น่ารักของจอนจีฮยอนและคิมซูฮยอนสร้างช่วงเวลาที่น่าจดจำไว้มากมาย
“Uncontrollably Fond”
รักครั้งแรกจะเป็นรักสุดท้ายด้วยได้หรือไม่? ชินจุนยอง (รับบทโดยคิมอูบิน) ดาราชื่อดังที่โชคชะตามักทำให้เขาได้พบกับโนอึล (รับบทโดยซูจี) ทั้งสองเคยมีความหลังด้วยกันเพราะรู้จักกันตั้งแต่มัธยมและพัฒนาเป็นคนรัก แต่การสื่อสารที่ผิดพลาดและความเข้าใจผิดทำให้พวกเขาเลิกกัน ตอนนี้โนอึลทำงานด้านการสร้างภาพยนตร์สารคดีและได้รับมอบหน้าที่ให้บันทึกชีวิตของจุนยองเพราะเขาเป็นนักแสดงที่มีชื่อเสียง พวกเขาจะก้าวจากอดีตที่ปั่นป่วนได้หรือไม่? โนอึลที่มั่นใจว่าจะไม่เริ่มใหม่กับจุนยองแต่จุนยองยืนกรานจะไม่ยอมเสียโนอึลไปอีกครั้ง
ไม่ใช่ทุกเรื่องราวความรักจะมีความสุขตลอดไป และ “Uncontrolably Fond” เป็นหนึ่งในนั้น พระนางต่างเจอกับควงามรักที่จบลงด้วยความเศร้า พวกเขาไม่อาจฝืนโชคชะตาได้แต่ก็ยังดีที่ได้สร้างความทรงจำที่สวยงามร่วมกัน นอกจากนี้เพลงประกอบซีรีส์ก็ยังเศร้าไม่แพ้กัน หากจะดูเรื่องนี้ควรเตรียมทิชชู่
“Radio Romance”
ซงกือริม (รับบทโดยคิมโซฮยอน) สนใจเกี่ยวกับวิทยุมาตั้งแต่เด็ก ความฝันของเธอคือการเป็นนักเขียนรายการวิทยุ แต่เส้นทางนั้นยากกว่าที่เธอคิดไว้มาก เธอพยายามอย่างหนักแต่ก็ตกงาน แต่แล้วกือริมก็ได้โอกาสในการทำงาน เธอจะสามารถเดินตามความฝันได้หรือไม่ หรือฝันนั้นต้องสะดุดเมื่อกือริมต้องทำงานร่วมกับ PD อย่างอีคัง (รับบทโดยยุนแบค) และกือริมต้องไปสัมภาษณ์ดาราดังอย่าบงจีซูโฮ (รับบทโดยยุนดูจุน) ซึ่งเป็นภารกิจที่ยิ่งใหญ่ ซูโฮเป็นคนสันโดษและชีวิตไม่ได้สมบูรณ์แบบอย่างที่เห็น
ถึงแม้เนื้อหาซีรีส์จะเนิบ ๆ แต่มันทำให้คุณติดได้ ความเรียบง่ายคือสิ่งที่ทำให้เกิดเรื่องราวที่ตรงไปตรงมา, ความรักที่ไม่ซับซ้อน และการแสดงที่และเอียด หากอยากผ่อนคลายควรดูเรื่องนี้
“My Love Eun Dong”
จีอึนโฮ (รับบทโดยจูจินโม) ดาราดังที่ถึงแม้จะมีชื่อเสียงแต่ข้างในกลับว่างเปล่า จุดมุ่งหมายเดียวในชีวิตของเขาคือการตามหาอึนดงรักครั้งแรกในวัยเด็กที่หายไป เขาจ้างนักเขียนซอจองอึน (รับบทโดยคิมซารัง) ให้มาเขียนหนังสือประวัติเขาเพื่อตามหารักครั้งแรก แต่เมื่อจองอึนฟังบันทึกของอึนโฮเธอก็รู้สึกเหมือนเดจาวู ฉากชีวิตของอึนโฮคล้ายกับเรื่องราวความรักของเธอกับฮยอนซู (รับบทโดยจินยองและแพคซองฮยอน)
เส้นทางสู่ความรักไม่เคยง่าย เรื่องราวที่สะเทือนใจเกี่ยวกับการตามหาผู้หญิงคนเดียวที่เขารักจนผู้ชมสัมผัสได้ถึงความโกรธของอึนโฮบวกกับการแสดงที่เข้มข้นของนักแสดงทำให้เรื่องนี้น่าสนใจเพราะผู้ชมจะสงสัยว่าอึนโฮและอึนดงจะมีความสุขได้หรือไม่หลังจากนี้
“Full House”
จีอึน (รับบทโดยซงฮเยคโย) นักเขียนบทที่ทะเยอทะยานอยากรู้อยากเห็นโลกใบใหม่ด้วยความไร้เดียงสาจึงไม่แปลกใจที่เธอถูกเพื่อน 2 คนหลอกให้ไปพักร้อน จบลงที่เธอต้องเสียบ้านไปและเจ้าของบ้านคนใหม่ของเธอคือ ยองแจ (รับบทโดยเรน) นักแสดงชื่อดังแต่ขี้โม้ ทั้งสองตกลงแต่งงานกันเพราะจีอึนอยากได้บ้านคืน ส่วนยองแจต้องการทำให้ผู้หญิงที่เขารักอย่างฮเยวอน (รับบทโดยฮันอึนจอง) หึง โดยที่ทั้งคู่ไม่เคยคาดคิดว่าจะตกหลุมรักกัน
“Full House” เป็นหนึ่งในซีรีส์ที่ปลุกกระแสฮันรยู ซงฮเยคโยกับบทจีอึนที่แสนร่าเริงแต่ถูกหลอกได้ง่าย และเรนกับบทซุปเปอร์สตาร์เหมือนตัวจริงที่มัดใจผู้ชมอยู่หมัด ไหนจะเคมีที่เจข้ากันของทั้งคู่อีก ถ้าคุณมีวันสบาย ๆ ไม่รีบร้อนควรดูซีรีส์เรื่องนี้