ปัจจุบันซีรีส์เกาหลีมีพล็อตแนวแก้แค้นผลิตอกมาให้ดูมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่ละเรื่องก็มีเรื่องราวที่แตกต่างกันออกไป เช่นซีรีส์ที่ออกอากาศทาง Disney+ เรื่อง Call It Love ที่มีทั้งความแค้นและความโรแมนติกให้ผู้ชมเข้าถึงและอินไปกับมัน
ซีรีส์เรื่องนี้นำแสดงโดยอีซองคยองและคิมยองกวัง มี 16 ตอน เรื่องราวของโชคชะตาที่โหดร้ายแต่บางครั้งก็ให้กำลังใจเราได้ ชิมอูจู (รับบทโดยอีซองคยอง) ต้องการกลับไปหาครอบครัวของเมียน้อยพ่อหลังจากที่พวกเขาถูกไล่ออกจากบ้านของตัวเอง เป้าหมายของเธอคือการทำให้ฮันดงจิน (รับบทโดยยองกวัง) ลูกชายของเมียน้อยพ่อต้องชดใช้กับความเจ็บปวดที่เธอวางแผนไว้หมดแล้ว แต่อูจูกลับสบายใจเมื่อได้อยู่กับดงจิน และดงจินก็เป็นคนที่แตกต่างจากที่เธอคิดไว้ เขาเป็นคนที่เธอต้องการให้มาช่วยรักษาแผลใจ
1.สำหรับบทของอีซองคยอง เธอทัง้รู้สึกคุ้นเคยและแปลกใจกับบทนี้ไปในเวลาเดียวกัน
จากประสบการณ์เกือบ 10 ปีทำให้อีซองคยองได้รับบทบาทที่หลากหลาย แต่ส่วนใหญ่มักจะเป็นแนวโรแมนติก-คอมเมดี้ แต่กับเรื่องนี้เธอได้ลองทำอะไรใหม่ ๆ กับบทบาที่จริงจัง “เมื่อเทียบกับบทอื่น ๆ ที่ฉันเคยเล่นมาบทมันจะเบา ๆ ใช่มั้ยคะ แต่ตัวละครนี้ทั้งเงียบและเก็บความลับไว้มากที่สุดตั้งแต่ฉันเล่นมาเลยค่ะ ฉันคิดว่านี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้เล่นบทแบบนี้ แต่ฉันไม่รู้สึกว่ามันเป็นสิ่งใหม่เท่าไรนะคะเพราะบางมุมในชีวิตจริงของฉันก็นิสัยคล้ายกับอูจูค่ะ” เธอกล่าว
ซองคยองยังกล่าวเพิ่มว่าอูจูเป็นเหมือนเธอที่เป็นผู้ใหญ่ที่สุดในครอบครัว เธอจึงเข้าใจความรู้สึกของอูจูในการต่อสู้กับสิ่งต่าง ๆ เช่น การเก็บซ่อนอารมณ์ สำหรับฉากใน Call It Love ที่น่าจดจำที่สุด อีซองคยองเน้นถึง 2 ตอนแรกที่พี่สาวของ อูจูได้รับบาดเจ็บในที่ทำงาน “ฉันยังรู้สึกได้อยู่เลยว่าตัวเองอารมณ์เสียและโมโหกับฉากนั้น เหมือนมันเกิดขึ้นกับพี่ของฉันจริง ๆ น่ะค่ะ”
2.บทในเรื่องทำให้คิมยองกวังอิน
ในตอนหนึ่งที่ดงจินพูดว่า “ผมไม่สนความโชคร้ายของคนอื่นหรอกครับ เพราะผมมีความโชคร้ายของผมที่ต้องห่วงเหมือนกัน” ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมด ยองกวังบอกว่าบทนี้ทำเขาอินสุด ๆ!
3.ผู้กำกับต้องการให้ผู้ชมรู้สึกว่าเมื่อดูเรื่องนี้แล้วเราไม่ได้ตัวคนเดียว และเมื่อดูเรื่องนี้แล้วอยากให้ทุกคนได้เริ่มต้นใหม่
Call It Love อาจพูดถึงเรื่องราวการแก้แค้นเป็นหลัก แต่ผู้กำกับอีกวังยองตั้งเป้าหมายหวังให้ผู้ชมได้รู้ว่าเรื่องนี้ยังเป็นซีรีส์ที่สร้างความประทับใจให้กับผู้ชมได้ โดยเฉพาะถ้าดูเรื่องนี้แล้วผู้ชมยังอยากตื่นมาใช้ชีวิตต่อไป
ซองคยองสะท้อนความรู้สึกเดียวกับผู้กำกับและบอกว่าตัวละครอูจูเป็นคนที่เราพบเจอได้ในชีวิตจริง อูจูอ่อนแอแต่ไม่อยากให้ใครรู้ว่าเธอกำลังเป็นทุกข์ “ในชีวิตจริงคนเราก็คงไม่สามารรถแสดงความรู้สึกทั้งหมดของตัวเองออกมาได้ ในแต่ละวันที่ต้องเหนื่อยและดิ้นรน ฉันเลยคิดว่าฉันเข้าใจอูจูเพราะจุดนี้ค่ะ รวมทั้งพระนางที่ต่างปลอบโยนกันและกันได้ ฉันหวังว่าซีรีส์เรื่องนี้จะปลอบโยนผู้ชมได้เช่นกันค่ะ”
4.คิมยองกวังต้องอยู่ห่างจากอีซองคยองเพราะเรื่องนี้
จริง ๆ แล้วทั้งคู่สนิทกัน เวลาอยู่ด้วยกันก็ชอบเล่นอะไรกันตลก ๆ แต่เพื่อเข้าถึงตัวละครและแสดงอารมณ์ออกมาทั้งคู่จึงต้องอยู่ห่างกันเข้าไว้! แต่ผู้ชมไม่ต้องกังวลเพราะมิตรภาพของพวกเขานอกจอยังคงสวยงามเหมือนเดิม ทั้งคู่สนุกกับการถ่ายทำ
5.อีซองคยองและคิมยองกวังเผยว่าพอถ่ายเรื่องนี้แล้วนอนหลับไม่ค่อยหลับ
“มันเป็นประสบการณ์ที่แปลกมากค่ะ เพราะเราทั้งกลัวทั้งกังวลว่าจะอินกับบทไปเป็นเดือน ๆ มีแว้บนึงฉันคิดกลัวขึ้นมาเลยว่าจะอยู่ยังไงกับสภาพจิตใจแบบนี้ แต่เราก็ปรับตัวกลับมาสู่ความเป็นจริงได้ค่ะ” ซองคยองกล่าว