อีกหนึ่งความล้ำจินตนาการของเกาหลีใต้ที่ต้องยอมรับ เมื่อคนเขียนบทเลือกจะหยิบเอาพล็อตโลกสองยุคมาชนกัน ชนิดที่เราไม่ค่อยจะได้เห็นเมนูยำรวมแบบนี้บ่อยนัก ประกอบกับชื่อของเหล่านักแสดงนำก็เป็นแม่เหล็กดึงดูดผู้ชมชั้นดี หลายคนเลือกจะดูเรื่องนี้ เพราะน้องคิมแทรี หรือบางคนก็ดูเพราะเป็นแฟนคลับของ คิมอูบิน ซึ่งก็ต้องบอกว่า โดยภาพรวมหนังไม่ได้แย่ แต่เพราะความยาวของหนังที่สูงถึง 2 ชั่วโมง 22 นาที แถมต้องปูภาพรวมให้ผู้ชมเข้าใจก่อนว่าจักรวาลที่ผู้กำกับกำลังนำเสนออยู่ มีตัวละครไหนบ้าง แต่ละคนมีหน้าที่อะไร แล้วทั้งสองโลกมาเชื่อมต่อกันได้ยังไง
สำหรับผู้ชมบางกลุ่มหนังเรื่อง “วายร้ายเอเลี่ยน” แทนที่จะกลายเป็นหนังไซไฟล้ำๆ เลยกลายเป็นหนังน่าเบื่อ ที่ตัดฉากสลับไปมาแบบไม่ต่อเนื่องไปแทน ซึ่งก็ถือว่าน่าเสียดายมาก เพราะถ้าดูอย่างตั้งใจจริงๆ เรื่องราวเหนือจินตนาการที่ วายร้ายเอเลี่ยน กำลังนำเสนอ มีความสนุกอยู่ไม่น้อยเลย โดยเฉพาะองค์ประกอบศิลป์ และ CGI ที่ทำได้ดี เมื่อต้องเล่นกับเทคโนโลยีของโลกอนาคต และพลังของเอเลี่ยน สมกับเป็นหนังระดับรางวัล
แต่ที่ขัดใจสุด ๆ คงเป็นที่หนังเรื่องนี้ยังไม่ได้จบในตัวเอง แต่เป็นแค่ Part 1 ที่ต้องมาตามลุ้นเรื่องราวต่อไปกันใน Part 2 ใครที่ดูแล้วชอบมาก ก็รอภาคต่อไปได้เลย แต่ถ้าใครดูจบแล้วยัง งง ว่าสรุปแล้วหนังเล่าเรื่องอะไร สรุปแบบเรียบง่าย คือ ว้ายร้ายเอเลี่ยน คือ หนังไซไฟผสมย้อนยุคแนวตำรวจจับผู้ร้ายที่เล่าอยู่บนฉากหลังของจักรวาลคู่ขนานเหมือนกับ Avengers End Game
แถมตอนนี้ยังเป็นคอนเทนต์ที่เปิดตัวได้แรงสุดๆ ขึ้นเป็นอันดับ 1 ของ Prime Video เรียบร้อยแล้ว
รับชมแบบถูกลิขสิทธิ์ พร้อมซับไทยได้ที่ Prime Video เท่านั้น