รีวิว Killing Romance – รอยยิ้มแสนอบอุ่น เสียงทุ้มต่ำที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ คือ เอกลักษณ์ประจำตัวของ “อีซอนกยุน” นักแสดงมากความสามารถที่เพิ่งจากโลกใบนี้ไปด้วยวัย 48 ปี ทิ้งไว้เพียงผลงานการแสดงมากมายที่หลายคนตกหลุมรัก ไม่ว่าจะเป็นบทบาทพี่ชายข้างบ้านผู้แสนอบอุ่นใน Coffee Prince บทบาทคุณลุงผู้แสนใจดีใน My Mister หรือบทบาทคุณพ่อ จากหนังเกาหลีระดับรางวัลออสการ์อย่างเรื่อง Parasite การแสดงของเขาก็มักจะโดดเด่นออกมาเสมอ สำหรับเราที่เติบโตมากับซีรีส์ทุกเรื่องของ “อีซอนกยุน” ความรู้สึกที่มีต่อข่าวการเสียชีวิตของเขา ทั้งตกใจ และเสียใจไม่ต่างอะไรกับแฟนคลับทุกคน บทความนี้สำหรับเรา คงเหมือนกับเป็นการระลึกถึงรอยยิ้ม และเสียงหัวเราะ ที่คุณลุงฝากไว้ให้กับเรา ก่อนออกเดินทางไปยังที่ไกลแสนไกล
สำหรับหนึ่งในผลงานของ อีซอนกยุน ที่เราจะมาพูดถึงกันในบทความนี้ คือ เรื่อง Killing Romance หนังเกาหลีแนวมิวสิคคัล โรแมนติก-คอมเมดี้ ที่ว่าด้วยเรื่องราวชีวิตสุดพลิกผันของนักแสดงสาว ฮวังยอแร (รับบทโดย อีฮานี) เธอประสบความสำเร็จในระดับปรากฎการณ์ ถึงขนาดมีสปอนเซอร์มากมายต่อแถวมาขอให้เธอเป็นพรีเซนเตอร์ให้ แต่ความสำเร็จที่มากมายเกินไป บวกกับคำวิจารณ์ด้านการแสดงของเธอที่รุนแรงเกินไป ทำให้เธอเกิดอาการ Burn Out อย่างรุนแรง
ทางเดียวที่จะเยียวยาจิตใจของเธอได้ คือ การบินไปยังเกาะห่างไกลทางตอนใต้ของทะเลเแปซิฟิก ที่มีชื่อว่า “เกาะควาลา” ณ ที่แห่งนั้น เธอได้พบกับอภิมหาเศรษฐีที่มีชื่อว่า “โจนาธาน” (รับบทโดย อีซอนกยุน) เขาคือคนที่คอยปกป้อง และทำให้ชีวิตของเธอเปลี่ยนไปตลอดกาล เหมือนกับเรื่องราวในนิทานที่อยู่มาวันหนึ่ง หญิงสาวชาวบ้านก็ได้พบรักกับเจ้าชายรูปงามที่พาเธอเข้าไปใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันในพระราชวัง แต่สำหรับ “ฮวังยอแร” พระราชวังที่ว่า ของมหาเศรษฐีอย่าง โจนาธาน ไม่ต่างอะไรกับ “คุกบนหอคอย” ที่ถูกสร้างไว้เพื่อกักขังไม่ให้เธอโบยบินออกไปทำในสิ่งที่ตัวเองรักข้างนอก
จุดเด่นที่ทำให้เราชอบหนังเรื่องนี้ ถึงตัวหนังจะไม่ได้ดูลงทุนมากมายอะไรนัก คือ การออกแบบฉาก คาแรคเตอร์หลุดโลกของตัวละคร และการเดินเรื่องที่ทำให้เราย้อนนึกไปถึงหนังดังฝั่งตะวันตกสุดคลาสสิคอย่าง “ชาร์ลีกับโรงงานช็อกโกแล็ต” เพราะหนังเลือกจะจัดเซ็ตติ้งโลกของ Killing Romance แบบเหนือจริง เป็นโลกที่คนอย่าง โจนาธาน มีอำนาจล้นฟ้า อยู่เหนือกฎหมาย จนไม่มีใครกล้าหักหลังเขาได้ ชีวิตของ ยอแร เลยเป็นเหมือนนกน้อยในกรงทอง ที่ถูกเลี้ยงไว้เป็นเครื่องเสริมบารมีของ โจนาธาน เท่านั้น เขามักจะบังคับให้เธอทำในสิ่งที่เขาต้องการ ไม่ว่าจะเรื่องอาหาร เรื่องน้ำหนัก หรือเรื่องรอยยิ้ม ที่ต้องออกมาเพอร์เฟกต์ในแบบที่เขาต้องการเสมอ และเขามักจะขัดขวางทุกครั้ง เมื่อรู้ว่าเธอพยายามจะหวนกลับไปยังวงการบันเทิงที่จากมา ด้วยอำนาจเงินที่เขามี
แต่ต่อมาวันหนึ่งเมื่อความอดทนของ ยอแร หมดลง เธอก็ได้พบกับแฟนคลับของเธอที่บังเอิญอาศัยอยู่บ้านข้าง ๆ กัน เขามีชื่อว่า “คิมบอมอู” (รับบทโดย กงมยอง) ชายหนุ่มผู้ใช้ชีวิตวนเวียนอยู่กับสถาบันติวเข้ามหาวิทยาลัยโซล มากถึงสี่ครั้ง ก็ยังไม่สามารถทำตามความฝันให้สำเร็จได้สักที มีเพียงเสียงเพลง และนักแสดงที่เขาชื่นชอบอย่าง ยอแร ที่สามารถทำให้ชีวิตของเขามีความสุขขึ้นมาได้บ้าง แต่หลังจากเห็นพฤติกรรมชั่วร้ายของ โจนาธาน ที่ทำเหมือนกับนักแสดงที่เขาชื่นชอบเป็นทาสที่ต้องทำตามคำสั่งทุกอย่าง บอมอู ก็ตัดสินใจเข้าร่วมในแผนการลอบฆาตกรรม โจนาธาน ร่วมกับ ยอแร ด้วยสารพัดวิธีการที่เหมือนจะเอาฮา แต่ก็แอบจริงจัง โดยเฉพาะแผนซาวน่า ทำออกมาได้สนุกมาก เรียกว่าเป็นจุดที่ทำให้ผู้ชมอยากตามดูต่อเลยว่า คูหู่ดารากับแฟนคลับสองคนนี้ จะวางแผนอะไรกันต่ออีก เพราะไม่ว่าจะกี่ทีก็เหมือนจะทำอะไร โจนาธาน ไม่ได้เลย
ว่ากันตามจริง บทของ Killing Romance สำหรับเรามองว่า ถูกออกแบบมาเพื่อขายความฮา ที่ขัดแย้งกับธีมแสนมืดหม่นของเรื่อง ซึ่งเน้นพูดถึงระบบชายเป็นใหญ่อยู่แล้ว แต่คาแรคเตอร์ของ โจนาธาน ก็ไม่ได้ถูกวางให้เป็นคาแรคเตอร์แบบคนทั่วไป ไม่ว่าจะแอคติ้งที่เกินจริง สลับกับจังหวะตอนมิวสิคคัล ที่ถูกเสริมเข้ามาเป็นระยะ ก็ช่วยทำให้ระยะเวลาเกือบสองชั่วโมงของหนังเรื่องนี้ ดูสนุกมากขึ้น ถึงแม้ว่าการตัดสลับฉาก จะมีข้ามแบบไปไกลมาก แต่เราก็ทำความเข้าใจกับบริบทของเรื่องได้ไม่ยาก
มาถึงตรงนี้ หากเรามองข้ามความปั่นประสาท และความกวนตามแบบฉบับของหนังแนวโรแมนติก-คอมเมดี้ไป Killing Romance พูดถึงความสัมพันธ์แบบ Toxic ในแง่มุมที่พยายามจะให้ความเชื่อมั่น กับคนที่กำลังตกอยู่ในวังวนของความสัมพันธ์แบบนี้ว่า หากยังยอมอดทนใช้ชีวิตอยู่ในพื้นที่ ที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว ชีวิตของเราก็จะไม่มีวันก้าวไปไหนได้เลย ไม่ว่าจะกลับไปยังอดีต หรือเดินหน้าไปสู่อนาคต กว่าที่คนอย่าง ยอแร จะรู้ตัวว่าสิ่งที่เธอคิดถึง กลับเป็นสิ่งที่เคยเกลียดมากที่สุด ก็ต้องพยายามทุกวิถีทางเพื่อกลับไปเดินบนเส้นทางนั้นอีกครั้ง โดยมีแฟนคลับอย่าง บอมอู ที่มาเป็นคนคอยซัพพอร์ตการต่อสู้เพื่ออิสรภาพครั้งนี้ของเธอด้วย
รีวิว Killing Romance โดยภาพรวมแล้ว เป็นหนังที่ผู้ชมสามารถหยิบมาดูได้ด้วยหลายเหตุผลเลย ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอยากเสพหนังแนวใหม่ อยากได้ความฮา ความปั่นประสาทแบบไม่ต้องคิดตามบทอะไรมาก หรือจะหยิบมาดู เพื่อมองรอยยิ้ม และฟังเสียงหัวเราะของพระเอกในดวงใจอย่าง “อีซอนกยุน” ก็ทำได้เช่นกัน
รับชมเรื่อง Killing Romance แบบซับไทยได้ที่ Viu
