ตั้งแต่ชีวิตวัยเด็กที่ยากลำบากจนกลายเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงในยุคนี้
อีโดฮยอนเดบิวท์จากจอแก้วในปี 2017 และประสบความสำเร็จจากเรื่อง “18 Again” ทำให้เขาเป็นที่รู้จักในแวดวงผู้ชม
ด้วยทักษะการแสดงที่ยอดเยี่ยมและรูปลักษณ์ที่ดูดี อีโดฮยอนจึงถือเป็นหนึ่งในดาวรุ่งของวงการบันเทิงเกาหลีใต้ ณ ขณะนี้ เรามาทำความรู้จักเกี่ยวกับตัวตนและผลงานของเขากัน
กลายเป็นดาวรุ่งหลังจากแสดงเรื่อง “18 Again”
อีโดฮยอนเกิดวันที่ 11 เมษายน 1995 ที่กรุงโซล, เกาหลีใต้ ชื่อจริงของเขาคืออิมดงฮยอน เขาเติบโตที่อิลซาน อีโดฮยอนหน้าตาดีตั้งแต่เด็กและได้รับความสนใจจากผู้หญิงหลายคนในโรงเรียน เขาได้รับของขวัญในวันวาเลนไทน์เยอะมากจนต้องขอให้แม่มากลับรับบ้าน
แต่พื้นเพครอบครัวของเขาไม่ได้ร่ำรวย ทำให้อีโดฮยอนโตเร็วกว่าเพื่อนรุ่นเดียวกันเพราะเขาต้องช่วยพ่อแม่ทำงานแทนที่จะได้เล่นกับเพื่อน และเมื่อเปรียบเทียบกับนักแสดงรุ่นเดียวกับอีโดฮยอนถือว่าเขาช้ากว่าคนอื่นในการเรียนรู้เกี่ยวกับการแสดง
หลังจากฝึกมา 2 ปี เขาก็ได้รับบทตัวประกอบเรื่องแรกจาก Prison Playbook โดยรับบทเป็นจองคยองโฮวัยหนุ่ม ต่อมาในปี 2018 ได้รับบทเป็นนักกีฬาเรือพายเรื่อง Still 17 หลังจากนั้นในปีเดียวกันอีโดฮยอนก็ได้รับบทเป็นนักเทควันโดที่มีความหวังในการใช้ชีวิตและเป็นน้องชายของคิมยูจองในซีรีส์โรแมนติก-คอมเมดี้เรื่อง “Clean With Passion For Now”
แต่จากบทตัวประกอบที่ผ่าน ๆ มาไม่ได้ทำให้เขามีชื่อเสียงมากนัก อีโดฮยอนเริ่มได้รับความสนใจในปี 2019 เมื่อเขาแสดงซีรีส์เรื่องดังอย่าง “Hotel Del Luna” ถึงจะเป็นตัวประกอบเหมือนเรื่องอื่น ๆ แต่ครั้งนี้กลับจากออกไปเพราะเขาปรากฎตัวค่อนข้างมากในเรื่องนี้ จึงเริ่มเป็นที่รู้จักในวงกว้าง
ในปี 2020 อีโดฮยอนได้รับบทนำครั้งแรกจากเรื่อง “18 Again” และต้นปี 2021 เขาก็ได้รับบทนำจากเรื่อง “Youth of May“ เช่นกัน แสดงคู่กับโกมินชี ด้วยความพยายามมาโดยตลอดชองเขา จากฉายา “เจ้าชายแห่งบทตัวประกอบ” ก็กลายเป็นนักแสดงนำชายที่ไปอยู่ในใจผู้ชม
ซีรีส์ที่โดดเด่นของอีโดฮยอน
แม้เขาจะเป็นนักแสดงหน้าใหม่ในตอนนั้น แต่ผลงานนี้ของเขาทำให้ผู้ชมประทับใจเป็นอย่างมาก ซีรีส์เรื่องนี้จึงแป็นหนึ่งในผลงานที่ประสบความสำเร็จของอีโดฮยอน เรื่องนี้เขารับบทเป็นโกชองมยอง ชายหนุ่มที่คอยปกป้องจางมันวอล (รับบทโดยไอยู) อย่างเงียบ ๆ และเป็นคนที่จางมันวอลรักหมดหัวใจในอดีตอีกด้วย
เพื่อปกป้องผู้หญิงที่เขารัก โกชองมยองต้องแสร้งทำเป็นหันหลังให้เธอ เขาเป็นหิ่งห้อยวนเวียนอยู่รอบจางมันวอลเป็นเวลากว่า 1,000 ปี “Hotel Del Luna” ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากด้วยเรตติ้งที่สูง อีโดฮยอนจึงเป็นที่รู้จักมากขึ้น การแสดงที่มีเสน่ห์ของเขาในซีรีส์ทำให้เขาได้ฉายา “เจ้าชายของวงการยุคใหม่”
เรื่องนี้ถือว่าเป็นซีรีส์ที่เป็นจุดเปลี่ยนในอาชีพนักแสดงของอีโดฮยอน เรื่องราวของจองดาจองและฮงแดยองที่กำลังจะหย่ากันเพราะความเข้าใจผิดในชีวิตคู่ ถึงแม้พวกเขาจะรักกันมาตั้งแต่เป็นวัยรุ่น แต่โชคร้ายที่การมีลูกแฝดทำให้เส้นทางอาชีพและความฝันของพวกเขาทั้งคู่พังลง
อีโดฮยอนรับบทเป็นผู้ชายอายุ 38 ที่กลับไปเป็นวัยรุ่นอายุ 18 อีกครั้ง จึงเป็นเรื่องยากที่เขาต้องรับบทเป็นพ่อ แต่เขาก็ไม่ย่อท้อจนประสบความสำเร็จในการแสดงที่น่าเชื่อถือ และได้รับรางวัล “นักแสดงหน้าใหม่หมวดโทรทัศน์” ในงาน Baeksang Arts Awards 2021
ปี 2020 ได้มีโอกาสแสดงซีรีส์สยองขวัญทาง Netflix เรื่อง “Sweet Home” ร่วมกับซงคังและอีจินอุก เขารับบทเป็นอึนฮยอก หัวหน้าอพาร์ตเมนต์ คอยดูแลความปลอดภัยของเพื่อนบ้าน
ซีรีส์เรื่องก่อน ๆ ที่อีโดฮยอนแสดงเขามักได้รับบทที่เป็นลุค “ย้อนยุค/ล้าสมัย” แต่บทใน “Sweet Home” เขาสามารถแสดงเสน่ห์ชายหนุ่มได้อย่างเต็มที่ หลังจากฉายทั่วโลก 190 ประเทศก็ติดอันดับ 3 ของบรรดารายการทั้งหมดใน Netflix ที่มีคนดูมากที่สุดจากทั่วโลกในเดือนมกราคม 2021 ความนิยมในตัวอีโดฮยอนเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากหลังจาก “Sweet Home” ประสบความสำเร็จ
เรื่องราวในปี 1980 กับเหตุการณ์ทางการเมืองอย่างการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยในควังจู ความรักที่ชวนปวดใจของฮีแท นักศึกษาแพทย์แสนเก่งและมยองฮีพยาบาลสาว พวกเขาพบกันโดยบังเอิญและตกหลุมรักกันตั้งแต่แรกพบ
แต่ซีรีส์โรแมนติกเรื่องนี้กลับมีตอนจบที่น่าเศร้าทำเอาคนดูร้องไห้จนตาบวม แต่ผลงานเรื่องนี้ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ยืนยันให้เห็นถึงความสามารถในการแสดงของอีโดฮยอน โดยเฉพาะฉากท้าทายที่เขาต้องแสดงอารมณ์ออกมา หลังจากเรื่องนี้เขาก็มีผลงานต่อมาคือเรื่อง “Melodrama prince”
เส้นทางในสายการแสดงที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ
ถึงแม้เส้นทางอาชีพของอีโดฮยอนในตอนนี้จะสดใส แต่ตรงกันข้ามเขากลับไม่ได้เกิดในครอบครัวที่ร่ำรวยหรือครอบครัวที่ทำงานด้านศิลปะ ครอบครัวของเขาค่อนข้างลำบาก และน้องชายของเขาก็ยังเป็นผู้บกพร่องทางพัฒนาการอีกด้วย
ที่จริงแล้วความฝันเดิมของเขาในตอนที่ยังเป็นเด็กคือการเป็นนักบาสเกตบอลเหมือนพ่อ แต่พ่อไม่เห็นด้วย “การฝึกเพื่อแข่งขันเป็นเรื่องยาก และยังต้องใช้เงินและเวลามาก ลูกควรเล่นบาสเป็นงานอดิเรกพอ” พ่อบอกเขาไว้แบบนี้ บางทีพ่อของอีโดฮยอนอาจเป็นคนที่เข้าใจความยากลำบากของนักบาสเกตบอลมากที่สุด จึงไม่อยากให้ลูกชายของเขาเดินไปในเส้นทางเดียวกัน
ตอนม.2 อีโดฮยอนเริ่มสนใจการแสดงเมื่อได้ดู “Sunflower” แม้ว่าเขาจะถูกพ่อต่อต้านอีกครั้ง แต่เขาก็มุ่งมั่นที่จะทำตามแพสชั่นของเขาอีกครั้งหนึ่ง เขาขออนุญาตแม่ไปศูนย์เรียนการแสดงตอนเย็นหลังเลิกเรียน เพราะความรักที่มีต่อลูกชาย แม่จึงลงทะเบียนเรียนกับเขาโดยไม่บอกพ่อ อีโดฮยอนเชิญพ่อมาดูเขาเรียนการแสดงและในที่สุดพ่อก็ไม่ขัดขวาง
ต่อมาอีโดฮยอนตระหนักได้ว่ามันสายเกินไปที่จะเตรียมตัวสำหรับการสอบเข้าสายภาพยนตร์เพราะนักเรียนคนอื่น ๆ ในวัยเดียวกันได้เรียนรู้มาตั้งแต่ม.ต้นแล้ว ทำให้เขาล้มเหลวในการเข้ามหาวิทยาลัยในฝัน แต่อีโดฮยอนไม่ยอมแพ้กับความฝัน หลังจากเรียนและฝึกมา 1 ปี เขาก็ได้เข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยชุงอัง ภาควิชาการแสดงและการสร้างภาพยนตร์สาขาการละคร และยังได้รับการคัดเลือกให้ทำงานกับบริษัท Yuehua Entertainment ซึ่งเป็นต้นสังกัดของเขาจนถึงปัจจุบัน
หลังจากผ่านความยากลำบากมามากมาย ปัจจุบันอีโดฮยอนระสบความสำเร็จอย่างมากในวงการและยังคงสร้างความประทับใจให้กับผู้ชมผ่านบทบาทต่าง ๆ ของเขา