ถ้าหาก “ความลับ” คือ เสน่ห์สำคัญที่ทำให้เรื่องราวในหนัง และซีรีส์สักเรื่อง น่าติดตามได้ตั้งแต่ต้นจนจบเรื่อง การเปิดตัวของซีรีส์เรื่องใหม่จาก Prime Video ที่ดัดแปลงมาจากนิยาย เรื่อง “A House With a Yard” ก็ถือว่าทำเป้าหมายนี้สำเร็จ ตั้งแต่สองตอนแรกที่เปิดตัว ด้วยองค์ประกอบที่ตั้งต้นมาได้ดี ตั้งแต่การแคสท์นักแสดงหลักของเรื่องอย่าง “คิมแแทฮี” และ “อิมจียอน” ประกอบกับการออกแบบฉาก โทนภาพ และเพลงประกอบที่ช่วยบิวท์บรรยากาศความน่าสงสัยของ “สวนหลังบ้าน” ได้เป็นอย่างดี
โดยเส้นเรื่องในซีรีส์จะว่าด้วยตัวละครสองตัวที่ต่างฐานะกันแบบสุดขั้ว คนหนึ่งคือ “มุนจูรัน” รับบทโดย คิมแทฮี ผู้หญิงฐานะดีที่ทำหน้าที่แม่บ้าน ดูแลสามี และลูกชายที่ดูเหมือนจะมีปัญหาที่โรงเรียนหนึ่งคน และอีกคน คือ ชูซังอึน รับบทโดย อิมจียอน หญิงสาวผู้ตกเป็นเหยื่อการทารุณกรรมของสามีไม่เว้นแต่ละวัน เรียกได้ว่าคนนึง เหมือนจะใช้ชีวิตได้แบบสบายไปทั้งชาติ แม้จะมีปัญหาสุขภาพจิตอยู่บ้าง แต่อีกคนไม่มีแม้แต่ความหวังในการใช้ชีวิตเป็นของตัวเองเลย
แต่ความน่าสนใจของ Lies Hidden In My Garden ไม่ได้มีแค่งานภาพ และพล็อตเรื่องเท่านั้นที่น่าสนใจ เพราะซีรีส์เลือกจะเล่าเรื่องโดยใส่ลำดับเวลาที่ดูเหมือนจะไม่ต่อเนื่องกัน โดยปมหลักที่เป็นเหมือนต้นเหตุของเรื่อง ก็คือ “กลิ่นเหม็น” ที่จูรัน และเพื่อนบ้าน ต่างก็ได้กลิ่นโชยออกมาจากสวนหลังบ้านของครอบครัวนี้เหมือนกัน ซึ่งคำตอบที่สามีของจูรัน บอกภรรยาตัวเองให้เลิกกังวลเรื่องกลิ่น ก็คือข้ออ้างเรื่องปุ๋ยอินทรีย์ที่เพิ่งซื้อมา แต่ปัญหาดูเหมือนจะไม่จบแค่นั้น เพราะภาพที่ จูรัน เห็นในสวนหลังบ้านคือชิ้นส่วนของมือคนถูกฝังไว้ในที่ดินของเธอ
คำถาม คือ ถ้าสิ่งที่เธอเห็นคือชิ้นส่วนของคนจริง ๆ ใครที่เอานำมันมาซ่อนไว้ในสวนหลังบ้านของเธอ แล้วเรื่องราวนี้จะเกี่ยวอะไรกับการตายอย่างเป็นปริศนาของสามี ซังอึน ที่หลังจากมาเยี่ยมบ้านของจูรันโดยไม่ได้นัดหมาย เขาก็ถูกพบว่ากลายเป็นศพไปซะแล้ว โดยมีคำให้การของ ซังอึน ให้ปากคำกับตำรวจว่า สามีของเธอมีนัดกับ ผอ.พัคจังโฮ สามีของจูรัน ท่ามกลางบรรยากาศที่ดูเหมือนเธอไม่ได้รู้สึกอะไรกับการตายของสามี ซึ่งฉากนึงที่เราชอบมาก คือ ฉากที่ จูรัน กินจาจังมยอนอย่างเอร็ดอร่อยเหมือนกับว่าชีวิตของเธอในที่สุดก็เป็นอิสระได้สักที เรียกได้ว่าเป็นซีนที่ไม่ต้องมีน้ำตา หรือการระเบิดอารมณ์อะไร แต่ทำเอาเราสัมผัสได้ถึงความรู้สึกของตัวละครได้จริง ๆ
ใครชอบซีรีส์เกาหลีคุณภาพสูง ให้ความรู้สึกเหมือนดูหนังเรือง Parasite ฉบับสืบสวนสอบสวน Lies Hidden In My Garden คือซีรีส์ที่เราอยากชวนให้มาติดตามกันแบบรายสัปดาห์ มีทั้งหมด 8 ตอน รับชม EP.1-2 ได้แล้วที่ Prime Video เท่านั้น
รีวิว Lies Hidden in My Garden
จบไปแล้วครบทั้ง 8 ตอน สำหรับซีรีส์เกาหลีดัดแปลงมาจากนิยาย ที่หลายคนดูจบแล้ว ยกให้เป็นหนึ่งในซีรีส์เกาหลีประจำปี 2023 ที่ต้องลองดูสักครั้ง เพราะนอกจากงานภาพ และการสื่ออารมณ์จะดีมากแล้ว เคมีของนักแสดง ที่เปรียบเหมือน “ขาว” และ “ดำ” ในเรื่อง ต่างก็ทำหน้าที่ของตัวเองได้ดี และทรงพลังไม่แพ้กัน
“Lies Hidden in My Garden” มีไอเดียตั้งต้นที่เรียบง่าย แต่ทรงพลังในตัวของมันเอง ทุกอย่างตั้งต้นมาจากเหตุน่าสงสัยอย่างเดียวที่อยู่ในสวนหลังบ้าน มันคือ “กลิ่นเหม็น” ที่ไม่ว่าใครก็คงจะรู้สึกสะอิดสะเอียนเวลาเดินผ่านหน้าบ้าน แต่เรื่องน่าแปลก คือ มีแค่ “มุนจูรัน” รับบทโดย คิมแทฮี เพียงคนเดียวเท่านั้น ที่ยืนยันกับสามี และลูกชาย ว่าเธอได้กลิ่นเหม็นมาจากสวนหลังบ้านจริง ๆ แม้ว่า สามีของเธอ จะไม่ยอมรับ และอ้างไปว่ามันคือกลิ่นของปุ๋ยอินทรีย์ก็ตาม
ว่ากันตามจริง ถ้าดูซีรีส์เรื่องนี้แบบแฟนนิยายที่อ่านมาก่อน ความสนุกในการดูคงจะเป็นการเห็นตัวละครในนิยาย มีชีวิตจริงอยู่ในจอทีวี แต่ถ้ามองเรื่องนี้ ในฐานะคนดูซีรีส์เกาหลี เราอาจกล่าวได้ว่า นี่คือซีรีส์แนวสืบสวนสอบสวนที่เต็มไปด้วยจังหวะระทึกขวัญ เพราะไม่ว่าจะตัวละครไหน ที่ปรากฏตัวออกมา ก็ดูเหมือนจะไม่น่าไว้ใจด้วยกันทั้งนั้น ซีรีส์ให้ความรู้สึกเหมือนเรากำลังดูหนังเรื่อง “Parasite” ชนชั้นปรสิต ในรูปแบบของมินิซีรีส์ความยาว 8 ตอน
ฉากหลังที่สวยงาม บ้านที่ใหญ่โต แต่คนในบ้านกลับดูไร้ชีวิตชีวา เหมือนกับว่า ความสวยงามของภาพในมุมกว้างของบ้าน เป็นเพียงฉากบังหน้า ที่ซ่อนความรุนแรง และความน่าเหม็นไว้ภายใน พูดมาถึงตรงนี้ ก็ต้องกล่าวถึงตัวละครสำคัญที่ทำให้เรา รู้สึกเชื่อมโยงไปถึงเหล่าคนรับใช้ใน Parasite เธอมีชื่อว่า “ซังอึน” รับบทโดย อิมจียอน ตัวละครที่ถูกเขียนขึ้นมาให้เป็น “ทาส” รองรับความรุนแรงในครอบครัวจากสามีของเธอ จนกระทั่งวันหนึ่งเธอก็ได้รับอิสรภาพจากความตายผิดธรรมชาติของสามีตัวเอง และมันได้กลายเป็นจุดเริ่มต้น ให้เธอเข้าหา “มุนจูรัน” หญิงสาวที่เป็นเหมือนกระจกเงา สะท้อนชีวิตในแบบที่ ซังอึน อยากเป็น
สำหรับเราหลังจากดูซีรีส์เรี่องนีัจบแล้ว เรามองว่า ความสนุกของซีรีส์อาจจะไม่ได้หวือหวามากนัก คือ ไม่ถึงขนาดติดแบบต้องดูตอนต่อตอน แต่ก็ต้องยอมรับว่า ซีรีส์วางฉากเปิด และฉากปิด เหมือนให้เราเดินตามรอยเศษขนมปัง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อน คือ ปลายทาง แต่เหตุการณ์ที่เราจะเจอระหว่างตอน คือ การเฉลยที่ละปม ว่าสาเหตุของความผิดปกติแต่ละอย่าง แต่ละเหตุการณ์ ที่จริงแล้ว มีความลับอะไร ซ่อนอยู่กันแน่
เรื่องนี้ใครชอบผลงานของทั้ง คิมแทฮี และ อิมจียอน
ปักหมุดดูแบบยิงยาว 8 ตอนจบ ได้เลย
