Little Women เรื่องราวของสามพี่น้อง โออินจู ( รับบทโดย คิมโกอึน) โออินคยอง( รับบทโดย นัมจีฮยอน) และ โออินฮเย ( รับบทโดย พัคจีฮู) ที่ต้องเข้าไปพัวพันกับครอบครัวร่ำรวยและมีอิทธิพลในเกาหลี
เมื่อเหล่า “หญิงตัวเล็กๆ” กำลังปั่นประสาทบรรดาชายผู้ยิ่งใหญ่
แม้จะเป็นซีรีส์ที่หยิบเอาบทประพันธ์ ขึ้นหิ้งของ Louisa May Alcott ที่เคยทำเป็นเวอร์ชั่นหนังเมื่อปี 2019 มาตีความใหม่ แต่การตีความครั้งนี้ ทำให้เห็นว่า ไม่ว่าจะยุคนั้นหรือยุคไหนๆ ความอยากรวย ยังเป็นเรื่องคลาสสิค และการพยายามต่อสู้กับความชายเป็นใหญ่ ก็ยังมีอยู่เสมอจนถึงปัจจุบัน
.
ในเรื่องความอยากมี อยากรวย สไตล์ทุนนิยม ผู้ชมคงสัมผัสได้จากตัวละครสามพี่น้องเป็นอย่างดี ซึ่งจุดนี้ไม่ได้ต่างจากบทประพันธ์เดิมเท่าไร
.
แต่ในเวอร์ชั่นนี้ที่ได้เล่าผ่าน ผกก.หญิง “คิมฮีวอน” ยังมีอีกนัยยะหนึ่งที่สอดแทรกไว้ผ่านการตีความฉบับปี 2022 ที่นอกจากจะใส่ความเป็นทริลเลอร์ชวนระทึก น่าติดตามไปกับปริศนาต่างๆ แล้ว จองซอคยอง มือเขียนบทจาก handmaiden ได้แทรกความหมายของการท้าทายอำนาจระหว่างชายหญิงเอาไว้ และใน little women ก็ยังคงลายเซ็นแบบนี้เช่นกัน
.
เรื่องราวชวนปวดหัวทั้งหมดตั้งแต่อีพี 1 จนตอนปัจจุบัน หากย้อนไปอย่างจริงจัง คงจะเริ่มตั้งแต่สมัย “นายพล” ผู้ชายที่ทั้งมั่งมีเงินทองรวมถึงอำนาจ เป็นภาพจำลองของสังคมที่ชายเป็นใหญ่ ชายที่มีอำนาจและนำมาซึ่งปัญหาที่จองซอคยองคงอยากจะเปรียบถึง
.
จนมายุคปัจจุบันกับพัคแจซอง ภาพจำลองของชายก็ยังคงอยากจะเป็นใหญ่อยู่ดี ยังคงทะเยอทะยาน อยากสิบทอดอำนาจนั้นและสร้างอำนาจที่ยิ่งใหญ่ขึ้นไปอีก
.
ตัวซีรีส์ได้ใส่มุมมองรายละเอียดให้ผู้ชมได้ลองมองภาพที่กว้างขึ้นไปรอบๆชายที่เป็นใหญ่เหล่านี้ เราจะเห็นบรรดาผู้หญิงตัวเล็กๆ รายล้อมอยู่ พวกเธอมีอิทธิพลต่อชายเหล่านั้นแบบที่ผู้ชายก็ไม่ทันรู้ตัว
.
ความแสบสันต์ที่คิมฮีวอนเล่าผ่านซีรีส์ในเรื่องคือการจิกแซะผู้ชายเบาๆ แบบพอประมาณ ตั้งแต่ให้พ่อบ้านเป็นผู้ชายรับใช้ผู้หญิง เป็นภาพที่ไม่ค่อยคุ้นกันกับซีรีส์เกาหลีเท่าไร ไหนจะภรรยาที่ไม่มั่นคงทางอารมณ์อย่าง “ซังอา” แต่กลับมีผลทางอารมณ์อย่างใหญ่หลวงกับ “แจซอง” ชายที่ดูฉลาด หลักแหลม เต็มไปด้วยความทะเยอทะยานและเล่ห์อุบาย…แต่ไปๆมาๆ ซังอากลับดูจะมีมากกว่าเขาด้วยซ้ำ
.
นอกจากนี้ ยังให้ตัวละครส่วนใหญ่ ที่มีผลกับพล็อตเรื่องเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ อ่อนแอ ไม่แข็งแกร่ง ดูเปราะบางง่ายราวกับว่า ซีรีส์กำลังแหย่เหล่าบรรดาผู้ชายที่ดูแข็งแกร่ง สตรองกว่าทั้งทางกายและใจ ให้ได้จี๊ดเล่นๆว่า เหล่า ลิตเติ้ลวูเมน หรือ “ผู้หญิงตัวเล็กๆ” ในสายตาผู้ชายเองนี่แหละ ที่สามารถปั่นบรรดาชายผู้ยิ่งใหญ่ให้ประสาทเสียได้ครอบงำพวกเขาได้ มีอิทธิพลเหนือกว่าพวกเขาได้โดยไม่ต้องออกแรงมากมายเลย
.
ดังนั้น การเล่าเรื่องผ่านมุมมอง ผกก.หญิงและนักเขียนบทหญิงในเวอร์ชั่นนี้ อาจจะอยากสะท้อนมุมมองใหม่คนดู รวมถึงสังคม ในยุคที่ยังคงมองชายเป็นใหญ่ว่า แท้จริงแล้ว ใครกันที่มีอำนาจเหนือกว่าอีกฝ่ายจริงๆ
.
คงเป็นอย่างที่ซังอาได้พูดกับอึนจูว่า
บางที ผู้หญิงก็แค่ทำเป็นด้อย เพื่อให้เขา(ผู้ชาย) ได้ดูเด่นกว่า ก็เป็นได้นะ
.
เมื่อทิศทางสารของเรื่องไกด์เรามาแบบนี้ หากตอนจบจะเหลือแต่เพียงผู้หญิง หลังจากที่ได้ขโมยความเป็นใหญ่ อำนาจ เงินทองจากผู้ชายไปจนหมดสิ้น แล้วไปมีความสุขแบบที่ไม่ต้องทำเป็นรองใครอีกต่อไป…คงไม่แปลกใจอะไรแล้วล่ะ
การเล่าเรื่องผู้หญิงผ่านมุมมองผู้หญิงของผู้กำกับคิมฮีวอน
ผู้กำกับคิมฮีวอนที่เคยฝากผลงานอย่างวินเซนโซ และ Soundtrack no.1 ยังคงสไตล์และฝีไม้ลายมือได้อย่างลึกซึ้งเช่นเคย
คิมฮีวอนเล่าเรื่องราวสามพี่น้องผ่านมุมภาพ องค์ประกอบและสัญลักษณ์ได้อย่างทัชใจ คือ ทำให้รู้สึกขนลุกได้เสมอเลยค่ะ และมีความนัยซ่อนอยู่ผ่านองค์ประกอบเหล่านั้นมากมาย ถือเป็นความละเอียดของคิมฮีวอนที่ถ่ายทอดความละเอียดยากจะบรรยายนั้นในภาพ/ซีนได้ทั้งหมดในซีนเดียว
อย่างซีนนี้ที่พี่คนโต “อึนจู” เปิดไปเจอกระเป๋าในล็อกเกอร์ ราวกับว่าเธอได้เจอ “ทางออก”
ซีรีส์ฉายภาพมืดสนิท ให้เราได้เห็นแสงสว่างผ่านช่องประตูล็อกเกอร์ที่อยู่ตรงกลางภาพ
ประตูล็อกเกอร์เล็กๆ ที่เธอได้เปิดไปเจอบางอย่าง เป็นเพียงแสงสว่างเล็กๆ เพียงอย่างเดียวในชีวิตที่มืดแปดด้านของเธอ…นั่นคือความรู้สึกในใจของอึนจูในเวลานั้นที่ผู้กำกับได้ถ่ายทอดผ่านภาพนี้ให้เราได้ชมกันนั่นเองค่ะ
ยังมีเทคนิคภาพที่ ผกก.หญิงคนนี้ใส่ความรู้สึกและความหมายที่แอบซ่อนไว้สื่อถึงคนดูอีกหลายฉากเลย
สมแล้วกับการเป็น ผกก.หญิงที่ฮอตที่สุดและน่าจับตามองที่สุดในวงการยุคนี้เลยค่ะ
fyi : คิมฮีวอน พา Vincenzo กวาดรางวัลเยอะมากในปี 2021 รวมถึงรางวัล Best Drama Series of 2021 จากเวที 26th Asian Television Awards (ATA) ด้วย
ความหมาย “รองเท้า” ในฐานะ symbolic ของภาษาหนัง Little Women
ถ้าจำความหมาย “รองเท้า” ในฐานะ symbolic ของภาษาหนัง Little Women ซีนนี้ ผกก. ใบ้เรามาตั้งแต่อีพี 2 แล้วล่ะค่ะ (มีสปอยล์)
รองเท้า ถูกใช้เป็นสัญลักษณ์มาในซีรีส์เกาหลีหลายเรื่องเลย ทั้ง Hometown Cha Cha Cha, 25-21 และ Little Women ที่มาอย่างโจ่งแจ้ง เห็นชัดทุกตอน
รองเท้า มักจะหมายถึงการเปลี่ยนแปลงบทบาท อย่างหมอฟันใน HomeCha เปลี่ยนจากหมอฟันหัวสูงในเมืองไปเป็นหมอฟันแสนใจดีในชนบท
และยังหมายถึงการเดินทางไปที่ไหนสักที่ อาจจะมุ่งไปตามฝันอย่างที่ 2521 เคยถ่ายทอดมา
ส่วนใน Little Women ทำให้นึกถึงสำนวนฝรั่ง “be in someone’s shoes” ที่แปลง่ายๆ ว่า ลองไปอยู่จุดคนๆนั้นเป็นอยู่ ไปอยู่ในสถานการณ์ของเขาดู
“รองเท้า” ในเรื่องนี้จึงเปรียบเหมือน ชีวิต บทบาท ตัวตน
ซึ่งในซีนอีพี 2 มีการเตรียม “รองเท้า” ที่ไซส์พอดีกัน มาให้ยืมใส่ไม่พอ ยังถอดเสืิ้อคลุมสุดหรูสวมให้กันอีก
เป็นการสื่อสารถึงคนดูทำนองว่า ฉันจะกลายเป็นเธอ เธอจะกลายเป็นฉัน จะมีใครสักคน “สวมรอย” เป็นอีกคน
นัยยะผ่านสัญลักษณ์ของ ผกก.คิมฮีวอนยังคงจัดเต็มเช่นเคย พลาดไม่ได้ซักซีนเดียวจริงๆค่ะ
Little Women EP.8ภาพเปรียบเทียบถึง ชนชั้นของทั้งคู่อย่างชัดเจน
(มีสปอยล์ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ยังไม่ได้รับชม EP.8)
ซีนนี้คือสะใจ
ขอยกให้ ผกก.คิมฮีวอนในเป็น นัมเบอวัน ณ เวลานี้
ระหว่างที่ซังอาก้มมองหญิงสาวผู้ต่ำต้อยอย่างอินจู
อินจูที่ต้องแหงนหน้าจนสุด เพื่อจะได้มองเห็นหน้าซังอา
เป็นภาพเปรียบเทียบถึง ชนชั้นของทั้งคู่อย่างชัดเจน ที่คนนึงอยู่สูงมากจนต้องแหงนมอง อีกคนก็ต่ำจนต้องก้มลงมา
แต่ด้วยซีนนี้ มันคือการท้าทายในความต่างอย่างสุดขั้วของตัวละครอินจู
ผกก. ได้ถ่ายทอดด้วยมุมกล้องที่ทำให้เราเห็นคนทั้งสอง อยู่ในระนาบเดียวกัน
แม้การกระทำจะบอกคนละระดับกันก็ตาม
เพราะเวลานี้ ระหว่างซังอาและอินจู ไม่มีใครสูงกว่า ต่ำกว่าอีกแล้ว
เรา “เท่ากัน” แล้ว
เป็นซีนที่อินจูท้าทายซังอาได้สะใจจริงๆๆ
Little Women EP.10 ผลไม้ต้องห้าม : แอปเปิ้ล
หวานฉ่ำแต่กินแล้วถึงตาย ความหมายที่ซ่อนไว้จาก #littlewomen
(มีสปอยล์ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ยังไม่รับชม EP.10)
ไม่เพียงแค่ความสนุก ลุ้นระทึกที่ซีรีส์พาอารมณ์ผู้ชมพุ่งพล่านเหมือนเล่นรถไฟเหาะอยู่ตลอดเวลา แต่ผู้กำกับคิมฮีวอนยังปราณีตในทุกรายละเอียดของซีรีส์เรื่องนี้ ทุกองค์ประกอบ ทุกวัตถุ ทุกสีสัน ทุกฉาก มีความหมายซ่อนอยู่ทั้งหมด
ถ้าได้ทราบความหมายที่แฝงไว้แล้วล่ะก็รับรองว่าจะขนลุกไปกับความรู้สึกของตัวละครและทึ่งในความดีเทลของเรื่องนี้เลยทีเดียว
📍 สัญลักษณ์หรือ symbolic ที่ถูกใส่มาแบบเนียนๆอย่าง “🍎แอปเปิ้ล” ได้แฝงความหมายผ่านการกระทำของซังอา ถึง 2 ครั้ง
ฉากที่ชัดที่สุดคือ..
🍎 ตอนซังอากัดแอปเปิ้ลระหว่างชมแจซังกล่าวสุนทรพจน์ผ่านทีวีในห้องพักผู้ป่วยของพ่อเธอ และฉากที่เธอปอกแอปเปิ้ลให้แจซังในช่วงท้ายของซีรีส์
แฟนซีรีส์ชาวเกาหลีตีความหมายเอาไว้ว่า..
“แอปเปิ้ล” ในภาษาเกาหลี = 사과 ซากวา ซึ่งออกเสียงแบบเดียวกับคำว่า “ขอโทษ”
ในซีนแรกที่ซังอากัดแอปเปิ้ล อาจจะหมายถึง เธอไม่พอใจสุนทรพจน์ของแจซังที่กำลังกล่าวเรื่อง “คำขอโทษ” อยู่
และซีนที่ยื่นแอปเปิ้ลให้แจซัง ก็แทน “คำขอโทษ” จากเธอเช่นกัน
แต่สำหรับแอด…มีอีกมุมมองหนึ่ง
เพราะ “แอปเปิ้ล” นี้พาให้นึกถึงเรื่องเล่าของตะวันตก ทุกคนคงพอคุ้นหูชื่อ “อีฟ-อดัม” และสวนเอเดน สวนของพระเจ้าใช่ไหมคะ
ว่ากันว่า…ที่สวนเอเดนที่อีฟกับอดัมอาศัยอยู่ มีผลไม้อยู่ชนิดนึงที่พระเจ้า “ห้าม” ทั้งคู่เด็ดกินเป็นอันขาด โดยบอกว่า
“หากกินแล้วจะต้องตาย” เพราะ ผลไม้นี้เป็นของพระเจ้าเท่านั้น
ผลไม้ต้องห้ามที่ว่า..มันก็คือ “🍎แอปเปิ้ล” นั่นเองค่ะ
ในซีนแรกที่ซังอากัดทานแอปเปิ้ลในห้องผู้ป่วยของพ่อ
(แปลกมากว่า..เธอจะกินแอปเปิ้ลเฉพาะเวลาอยู่ห้องนี้)
ซีรีส์วางคาแรคเตอร์ให้พ่อเป็นผู้ยิ่งใหญ่ในยุคหลังสงคราม นำพาผู้คนที่ศรัทธาในตนมาร่วมรับใช้ภายใต้สมาคมจองรัน เหมือนดั่งเป็นพระเจ้า
การที่ซังอาอยู่ในห้องพ่อ = อยู่ในดินแดนพระเจ้า เธอเลยสามารถหยิบผลไม้ที่เป็นของพระเจ้ามาทานได้ … นัยยะนี้คือ เพราะเธอ “จะเป็นพระเจ้าเอง”
และการมอบ “แอปเปิ้ล” ให้แจซัง ในช่วงท้าย
ก็คงหมายความถึง “การมอบความตาย” เพราะอย่าลืมว่า..มีแต่พระเจ้าเท่านั้น ที่สามารถทานผลไม้ต้องห้ามนี้ได้
หากไม่ใช่พระเจ้าแล้วละก็…ทานแล้วจะต้องตายนั่นเอง
แต่ด้วยความหมายอาจจะลึกซึ้งไปหน่อย การวางกล้วยไม้ที่เป็นสัญลักษณ์ของสมาชิกจองรันจึงถูกวางไว้เพื่อให้สารชัดเจนมากขึ้น
แอปเปิ้ล เป็นเพียง 1 ในหลายๆ สัญลักษณ์ที่ซ่อนไว้ในเรื่องนี้ค่ะ
ใครชอบตีความหมาย..ห้ามพลาด little women เชียวนาา
เจ้าของมือเล็บเขียวผู้คอนโทรลทุกอย่าง
(มีสปอยล์ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ยังดูไม่จบ)
.
ในขณะที่คนดูต่างปวดหัวไปกับการตามหาลาสบอสในซีรีส์ #littlewomen ซึ่งอันที่จริง ผู้กำกับเขาใส่คำเฉลยทุกอย่างไว้ตั้งแต่อินโทรอีพีแรก และเล่นซ้ำให้เราดูจนอีพีสุดท้าย
.
เจ้าของมือเล็บเขียวที่คอยจัดแจงพร็อบทุกอย่าง รวมถึงควบคุมคอนโทรลบ้านหลังใหญ่นั้นไว้ จะเป็นใครไปไม่ได้เลย
.
หากอยากรู้เฉลย…ลองกลับไปดูโปสเตอร์ซีรีส์เรื่องนี้ที่มีตัวละครครบเซ็ทอีกครั้งนะคะ จะมีอยู่เพียงคนเดียวที่มีสีเขียว
.
และสีบนโลกมีเป็นร้อยสี… ทำไมคิมฮีวอน ผู้กำกับเรื่องนี้ถึงเลือก “สีเขียว” ให้กับคนๆนั้น?
.
เพราะในทางจิตวิทยาของสีที่สื่ออารมณ์ในศิลปะ รวมถึงภาพยนตร์
“สีเขียว” 🟢 มักแทนความหมายถึงความชั่วร้าย
.
หากนึกไม่ออก ลองนึกภาพถึงหม้อต้มยาของแม่มด หรือเวลาแม่มดกำลังร่ายมนต์อันชั่วร้าย ในซีนนั้นจะใช้สีเขียวเพื่อส่งอารมณ์ ให้ความรู้สึกชั่วร้ายส่งมาถึงคนดูนั่นเองค่ะ
.
เพราะงั้น การวางสีเพื่อสื่อสารคาแรคเตอร์ตัวละครตัวนั้น ผกก. คงอยากจะบอกว่า เธอคนนี้ชั่วร้าย
แอดเห็นทีแรก นึกถึงแม่มดก่อนเลยล่ะค่ะ
.
เรื่องงานดีเทล คงต้องยกให้ little women เป็นหนึ่งในซีรีส์ที่ใส่รายละเอียดและสอดแทรกความหมายไว้เยอะมากจริงๆเลยค่ะ
