รยูซูยองได้รางวัลยอดนิยมจากงานประกาศรางวัลในเกาหลีใต้ ผลงานซีรีส์ที่โด่งดังของเขาเช่น ‘Ojakgyo Family’ และ ‘My princess’ รยูซูยองเข้าสู่วงการบันเทิงในรายการทำอาหารเมื่อปี 1998 ซึ่งในตอนนั้นเขายังเรียนมหาลัยอยู่ ต่อมาเขาก็ได้แสดงภาพยนตร์เรื่อง ‘Summertime’ แต่โชคชะตาไม่นำพาให้เขาได้อยากเล่นในบทที่เขาต้องการจริง ๆ ในช่วงแรก ๆ บทบาทของเขาจึงค่อนข้างจำกัด อย่างการเล่นเป็นนักแสดงสมทบในซีรีส์ดัง ๆ เช่น ‘Story of a Bright Girl’ และ‘Save the Last Dance for Me’ แต่รยูซูยองอยากได้บทที่ท้าทายกว่านั้น และสิ่งที่เขาต้องการก็เป็นจริง ในปี 2005 รยูซูยองแสดงซีรีส์เรื่อง ‘18 vs. 29’ หลังจากนั้นเขาก็ได้บทเด่น ๆ ในซีรีส์หลายเรื่อง ทั้งเรื่องดังและเรื่องที่ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร
ประวัติส่วนตัว
วันเกิด : 5 กันยายน 1979 (ราศีกันย์)
สถานที่เกิด : พูซาน, เกาหลีใต้
อายุ : 44 ปี
เพศ : ชาย
อาชีพ : นักแสดง
ส่วนสูง : 183 ซม.
ครอบครัว
ภรรยา : พัคฮาซอน
บิดา : ออยุนโซ
มารดา : ยุนยองซอก
ชีวิตวัยเด็ก
●ครอบครัวของเขาค่อนข้างมีฐานะ รยูซูยองมีความสนใจด้านละครตั้งแต่เด็ก รวมทั้งชอบเล่นบาสและบอลที่โรงเรียน
●แม้เขาจะมีความสนใจด้านการแสดงตั้งแต่เด็ก แต่ทีแรกรยูซูยองมองว่ามันเป็นแค่งานอดิเรกเท่านั้น เพราะเขารู้แก่ใจว่าครอบครัวคงไม่อยากให้เลือกเส้นทางที่เสี่ยงแบบนี้ การเลือกเรียนด้านการแสดงเป็นข้อผิดพลาดของเขาในช่วงม.ปลาย เมื่อเรียนต่อมหาลัยเขาจึงเลือกเรียนบริหารธุรกิจที่มหาลัยมยองจีตามที่พ่อแม่อยากให้เรียน
●แต่เมื่อเข้ามหาลัยไปเขาก็เริ่มงานแสดง และมีผลงานต่าง ๆ รยูซูยองจึงตัดสินใจไปแคสตอนอายุ 19
เส้นทางอาชีพ
●หลังจากผลงานแรกคือการออกรายการวาไรตี้ ในปลายปี 90 รยูซูยองก็ปรากฏตัวเป็นแขกรับเชิญบทเล็ก ๆ ใน ‘Gibb’s Family’ และ ‘Love and Farewell’ ถึงจะไม่ใช่สิ่งที่ดีกับเขาสักเท่าไรแต่มันก็ทำให้รยูซูยองมีรายได้และได้ไปออดิชั่นงานอื่น ๆ
●ผลงานปี 2000 เช่น ‘Good Friends 2’, ‘Navy’ และ ‘The Open Drama Man and Woman’ และปี 2001 กับซีรีส์ที่รยูซูยองได้รับบทสำคัญอย่าง ‘Successful Story of a Bright Girl’ ซึ่งทำให้เขาเริ่มมีชื่อเสียง รวมทั้งได้รางวัลนักแสดงหน้าใหม่ของงาน SBS Drama Awards ในปีนั้นอีกด้วย
●อีกทั้งเขายังมีภาพยนตร์ที่ไดรับบทนำในปี 2001 คือเรื่อง ‘Summertime’ ซึ่งภาพยนตร์ถูกวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมากเพราะเผยให้เห็นถึงเรื่องเซ็กส์และความรู้สึกต่าง ๆ อย่างชัดเจน จึงได้รับความสนใจอย่างมากก่อนออกฉาย และรยูซูยองก็ถูกพูดถึงไปทั่วในสื่อ
●ปี 2003 เขาปรากฏตัวในซีรีส์ที่ไม่ค่อยเป็นที่พูดถึงเท่าไรอย่าง ‘Merry Go Round’ และ ‘Jan gil San’ และในปีต่อมา รยูซูยองก็ได้รับอีกบทบาทหนึ่งที่ทำให้เขาก้าวขึ้นเป็นนักแสดงแถวหน้าในยุคนั้นกับบทจองแทมิน ตัวละครหลักในซีรีส์โรแมนติก-ดราม่าเรื่อง ‘Save the Last Dance for Me’ เรื่องราวของคู่รักที่เผชิญกับโรคความจำเสื่อม พวกเขาพยายามที่จะรักษาความรักไว้แม้จะเป็นอันตรายต่อชีวิตก็ตาม และเรื่องนี้ก็ทำให้รยูซูยองได้รางวัลนักแสดงชายสมทบยอดเยี่ยมจากงาน SBS Drama Awards
●ปี 2005 รยูซูยองแสดงซีรีส์เรื่อง ‘18 Vs 29’ ซึ่งเป็นผลงานที่น่าสนใจที่สุดของเขา เรื่องราวของภรรยานักแสดงที่โด่งดังที่ประสบอุบัติเหตุ แต่ภรรยายังคงอยู่ในใจของเขาและย้อนไปเมื่อพวกเขาอายุ 18 และซีรีส์เรื่อง Rebirth-Next ที่ทำให้รยูซูยองได้รางวัล Excellence Award ที่งาน MBC Drama Awards ในปีนั้น
●ปี 2006 รยูซูยองประสบความสำเร็จอีกครั้งกับผลงานเรื่อง ‘Seoul 1945’ บอกเล่าเรื่องราวของเกาหลีหลังจากได้อิสระจากญี่ปุ่น รยูซูยองรับบทเป็นชายที่มีฐานะยากจนที่พยายามประคับประคองชีวิตตัวเองไว้ท่ามกลางสถานการณ์ทางการเมืองที่วุ่นวาย ซีรีส์เรื่องนี้ประสบความสำเร็จมากมาย รยูซูยองได้รับรางวัล Top Excellence Award ที่งาน KBS Drama Awards และเสนอชื่อเข้าชิงในรางวัลอื่น ๆ
●ปี 2007 รยูซูยองเป็นส่วนหนึ่งของมินิซีรีส์เรื่อง ‘Bad Couple’ และซีรีส์เกี่ยวกับกฎหมายในปี 2008 เรื่อง ‘Lawyers of Great Republic of Korea’
●ปี 2008 รยูซูยองเข้ากรม เขาฝึกทหารและประจำการอยู่สำนักงานตำรวจกรุงโซลตั้งแต่ปี 2008-2010
●หลังจากปลดประจำการในปี 2011 รยูซูยองได้รางวัลมากมายจากบทสมทบซีรีส์คอมเมดี้เรื่อง ‘My Princess’ บอกเล่าเรื่องราวของนักศึกษาหญิงธรรมดา ๆ คนหนึ่งที่เพิ่งรู้ตัวว่าเธอมีเชื้อราชวงศ์ เธอจึงเริ่มจินตนาการว่าเธอเป็นเจ้าหญิงจริง ๆ
●ในปีเดียวกับรยูซูยองรับบทเป็นตัวละครหลักในซีรีส์คอมเมดี้แนวครอบครัวเรื่อง ‘Ojakgyo Family’ และได้รางวัล ‘Best Couple Award’ คู่กับชเวจองยุนที่งาน KBS Drama Awards รวมทั้งถูกเสนอชื่อเข้าชิงในสาขาอื่น ๆ
●หลังจากแสดงซีรีส์ที่ได้รับคำชมจากนักวิจารณ์เรื่อง ‘The Sons’ รยูซูยองก็กลับมาชิงรางวัลอีกครั้งกับรายการ ‘Real Men’ ในปี 2013 ซึ่งเขาได้รับรางวัล Best Star Award ในงาน MBC Entertainment Awards โดยรายการนี้จะให้คนดังทั้ง 8 คนไปใช้ชีวิตในกรมทหาร ได้แรงบันดาลใจมาจากแนวคิดของการฝึกทหารแบบบังคับซึ่งมีความสำคัญต่อชายเกาหลีใต้ทุกคน
●ปี 2014 รยูซูยองยังคงเป็นนักแสดงที่มีชื่อเสียง เขาปรากฏตัวในซีรีส์พีเรียดเรื่อง ‘Endless Love’ เรื่องราวรักสามเส้าท่ามกลางความวุ่นวายทางการเมืองและเศรษฐกิจในปี 1970-1990
●ผลงานอื่น ๆ เช่น ‘The Eccentric Daughter in Law’ และ ‘My Father is Strange’
●ปี 2023 รยูซูยองมีผลงานทาง Netflix ตั้งแต่ต้นปีสองเรื่องคือ Queenmaker ฉันจะปั้นราชินี และ Bloodhounds
ซีรีส์ Queenmaker ได้รับการตอบรับจากแฟนๆอย่างมากทาง Netflix รยูซูยองรับบท พัคแจมิน อดีตพิธีกรข่าว ที่กลายมาเป็นลูกเขยของมหาเศรษฐีกลุ่มทุนที่มีอำนาจของเกาหลีใต้ พร้อมเตรียมเป็นผู้สมัครส.ส.ชิงตำแหน่งผู้ว่าฯกรุงโซล ด้วยมาดอันสุขุมและภาพลักษณ์ที่ดี ทำให้เขามีลุ้นชิงตำแหน่ง รยูซูยอง พลิกบทบาทการแสดงได้อย่างน่าชื่นชม
ใน Bloodhounds เขารับบทเป็นโดฮายอง ลูกน้องคนสำคัญมือซ้ายของประธานชเว แม้บทที่ออกมาไม่มากแต่สร้างความสนใจให้กับผู้ชม
ชีวิตส่วนตัว
●หลังจากคบกับพัคฮาซอนมานานพอสมควร ทั้งคู่จึงแต่งงานกันเมื่อวันที่ 22 มกราคม 2017 เป็นงานไพรเวท มีเพียงเพื่อนสนิทและครอบครัวเข้าร่วม พวกเขาเผยว่าเดทกันมาตั้งแต่ปี 2014 ต่อมาทั้งคู่ก็มีลูกสาวด้วยกัน