ปี 2007 เกิดวิกฤตตัวประกันเกาหลีใต้ ถูกควบคุมตัวไว้ที่อัฟกานิสถาน ซึ่งตรงกับช่วงที่ผู้คนทั่วโลกกำลังตกอยู่ในความหวาดกลัวกลุ่มผู้ก่อการร้าย นี่คือโครงเรื่องจากเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้น และถูกนำมาใช้เป็นแรงบันดาลใจในภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์เรื่องนี้ นำแสดงโดย ฮวังจองมิน, ฮยอนบิน และ คังกียอง
หนังเล่าเรื่องโดยใช้ฉากหลังเป็นประเทศอัฟกานิสถานเป็นหลัก และมีการตัดภาพกลับไปยังสถานการณ์ฝั่งเกาหลีเป็นระยะ แต่ถือว่าน้อยมาก เพราะจุดโฟกัสอยู่ที่การเจรจาต่อรอง เพื่อนำตัวประกันชาวเกาหลีใต้ จำนวน 23 คน กลับมาบ้านอย่างปลอดภัย
โดยภาพรวม หนังสามารถเล่าเรื่องออกมาได้ดีมาก มีช่วงน่าเบื่อน้อย เมื่อเทียบกับตัวหนังตลอดทั้งเรื่องที่มีความยาวประมาณ 1 ชั่วโมง 38 นาที หลักๆ เลย คือ เราจะได้เห็นสองตัวละครหลักอย่าง จองแจโฮ รับบทโดย ฮวังจองมิน และ พัคแดชิก รับบทโดย ฮยอนบิน สองมือพระกาฬที่ชำนาญคนละด้าน แจโฮ คือ นักการฑูตมือดีของเกาหลี ในขณะที่ แดชิก คือ เจ้าหน้าที่ภาคสนามที่เชี่ยวชาญพื้นทื่ตะวันออกกลาง ที่มีเพื่อนสนิทอย่าง คาซิม คอยเป็นล่ามแปลภาษาให้ภารกิจการต่อรองชีวิตตัวประกันสำเร็จลุล่วงตามเป้าหมาย
ความน่าสนใจของหนังเรื่องนี้ นอกจากการประกบคู่ระหว่างสามนักแสดงมากฝีมือ ยังเป็นการนำเสนอความลุ้นระทึก ที่มาในรูปแบบของการลูบคมกันไปมาบนโต๊ะเจรจาแลกชีวิตตัวประกัน ในขณะที่ฉากแอคชั่นก็มีมาเสิร์ฟให้เช่นกันแบบพอดีคำ ไม่เยอะเกินไป เพราะนี่คือหนังที่ว่าด้วยการช่วยตัวประกัน ไม่ใช่หนังสงคราม
สรุปแล้ว หนังเรื่อง The Point Men สำหรับเรา ถือว่าสอบผ่านสมกับที่โฆษณาว่า นี่คือ ภารกิจระทึก ที่ต้องเข้ามารับชมความรู้สึกเข้มข้น และกดดันที่เกิดขึ้นบนโต๊ะเจรจาในโรงหนังจริงๆ
ระทึกพร้อมกัน 23 กุมภาพันธ์นี้ ในโรงภาพยนตร์